รถยนต์นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อ ค่าบำรุงรักษา ก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่สำคัญอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะค่าภาษีรถยนต์ ที่จะต้องเสียเป็นประจำทุกปี แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมภาษีของรถยนต์แต่ละคันจึงไม่เท่ากัน วิธีการคำภาษีรถยนต์คิดอย่างไร แล้วสามารถไปเสียภาษีรถยนต์ได้ที่ไหนบ้าง วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน
เสียภาษีรถยนต์ที่ไหนได้บ้าง?
- สำนักงานขนส่งทั่วประเทศไทย
- ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศไทย
- เคาท์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศไทย
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)”
- ซูเปอร์มาร์เก็ตบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว, รามอินทรา, รัชดาภิเษก, บางปะกอก, เพชรเกษม, สุขาภิบาล3, อ่อนนุช, แจ้งวัฒนะ, สำโรง, บางบอน, สุวินทวงศ์, สมุทรปราการ, บางใหญ่และบางนา
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา, ศาลายา, แจ้งวัฒนะ, เวสต์เกต
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์
- ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
- ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน
- ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน
- เสียภาษีรถยนต์ออนไลน์
- เว็บไซต์ : https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf
- แอปพลิเคชั่น : DLT Vehicle Tax
- เสียภาษีรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน mPay และ TrueMoney Wallet
- เสียภาษีรถยนต์ผ่านไดร์ฟทรูเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)
- เสียภาษีรถยนต์ผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk)
โดยการเสียภาษีรถยนต์จะต้องเตรียมเอกสาร คือ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ตัวจริง หรือสำเนา, เอกสาร พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุ และใบรับรองการตรวจสภาพรถ (กรณีรถยนต์อายุเกิน 7 ปีขึ้นไป)
วิธีคำนวณภาษีรถยนต์
การคำนวณภาษีรถยนต์ จะต้องดูจากปัจจัยหลายๆ ส่วนหากจะอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน วิธีคำนวณภาษีรถยนต์ สามารถคำนวณได้ดังนี้
- รถยนต์ป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำ
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถสปอร์ต จะคำนวณจากขนาดเครื่องยนต์
ขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี)
- รถยนต์ตั้งแต่ 1-600 ซีซี คิดอัตราภาษี 50 สตางค์/ซีซี
- รถยนต์ตั้งแต่ 601-1800 ซีซี คิดอัตราภาษี 50 บาท/ซีซี
- รถยนต์ตั้งแต่ 1801 ซีซีขึ้นไป คิดอัตราภาษี 4 บาท/ซีซี
ในกรณีที่รถยนต์มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จะได้รับเป็นส่วนลดภาษี โดยอัตราส่วนลดจะขึ้นอยู่กับอายุของรถยนต์
- อายุการใช้งาน 6 ปี ขึ้นไปได้ส่วนลดค่าภาษี 10%
- อายุการใช้งาน 7 ปี ขึ้นไปได้ส่วนลดค่าภาษี 20%
- อายุการใช้งาน 8 ปี ขึ้นไปได้ส่วนลดค่าภาษี 30%
- อายุการใช้งาน 9 ปี ขึ้นไปได้ส่วนลดค่าภาษี 40%
- อายุการใช้งาน 10 ปี ขึ้นไปได้ส่วนลดค่าภาษี 50%
- รถยนต์ป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือน้ำเงิน
รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง จะคำนวณจากน้ำหนักรถ
- หนักไม่เกิน 1800 กิโลกรัม ค่าภาษี 1,300 บาท/ปี
- หนักเกิน 1800 กิโลกรัม ค่าภาษี 1,600 บาท/ปี
- รถยนต์ป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือเขียว
รถบรรทุกส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง จะคำนวณจากน้ำหนักรถ
- น้ำหนัก 501- 750 กิโลกรัม ค่าภาษี 450 บาท/ปี
- น้ำหนัก 751 – 1000 กิโลกรัม ค่าภาษี 600 บาท/ปี
- น้ำหนัก 1,001 – 1,250 กิโลกรัม ค่าภาษี 750 บาท/ปี
- น้ำหนัก 1,251 – 1,500 กิโลกรัม ค่าภาษี 900 บาท/ปี
- น้ำหนัก 1,501 – 1,750 กิโลกรัม ค่าภาษี 1,050 บาท/ปี
- น้ำหนัก 1,751 – 2,000 กิโลกรัม ค่าภาษี 1,350 บาท/ปี
- น้ำหนัก 2,001 – 2,500 กิโลกรัม ค่าภาษี 1,650 บาท/ปี
- น้ำหนัก 2,501 – 3,000 กิโลกรัม ค่าภาษี 1,950 บาท/ปี
- น้ำหนัก 3,001 – 3,500 กิโลกรัม ค่าภาษี 2,250 บาท/ปี
- น้ำหนัก 3,501 – 4,000 กิโลกรัม ค่าภาษี 2,550 บาท/ปี
สำหรับใครที่ถึงเวลาต้องไปต่อภาษีแนะนำให้รีบไปต่อ เพราะถ้าเลยกำหนดจะต้องเสียค่าปรับ และถ้าภาษีขาดติดต่อกันเกิน 3 ปี จะทำให้ทะเบียนรถถูกระงับ ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ เมื่อเสียภาษีรถยนต์แล้ว ก็อย่าลืมทำประกันรถยนต์ด้วย เพราะส่วนใหญ่ 2 สิ่งนี้มักจะต้องทำพร้อมๆ กัน สำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ ขอแนะนำ Rabbit Care ศูนย์รวมประกันรถยนต์แบบครบวงจร มาพร้อมข้อเสนอดีๆ และสิทธพิเศษมากมาย สนใจทำประกันรถยนต์ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่ www.rabbitcare.com จบ ครบ ในเว็บเดียว